Line
Messenger

5 แนวทางป้องกันการโจมตีจากไซเบอร์

/

5 แนวทางป้องกันการโจมตีจากไซเบอร์

เมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น อันตรายจากการถูกคุกคามทาง Internet ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร องค์กรที่มีขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ก็ต้องมีการเฝ้าระวังอยู่เสมอ        ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีการป้องกันข้อมูลของเราให้แน่นหนามากขึ้นกว่าเดิม วันนี้ TechSpace จะมาแบ่งปัน 5 แนวทางป้องกันการโจมตีจากไซเบอร์ให้กับทุกคน

1.การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก

การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย อาจทำให้ข้อมูลของคุณไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงควรสร้างรหัสผ่านให้ยากต่อการคาดเดามากขึ้น เพื่อไม่ให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของคุณ เช่น

  • การใส่ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่, พิมพ์เล็ก, อักขระพิเศษ และตัวเลข ความยาวตั้งแต่ 8-16 ตัวหรือมากกว่านั้น
  • เลี่ยง การใช้วัน เดือน ปีเกิด ชื่อ (ชื่อแฟน เพื่อนสนิท พ่อแม่พี่น้อง ฯลฯ) หรือข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา
  • ควรใช้รหัสผ่านแยกกัน อาจจะใช้วิธีตั้งพาสเวิร์ดเป็นตั้งรหัสแบบเดิม แต่เปลี่ยนตัวเลข/อักขระที่ด้านหน้าหรือด้านหลังใหม่

ตัวอย่างรหัสผ่านคาดเดายาก

  1.  }SYtZ;R@O6n
  2. Fb54>;j**+{
  3. 846N@O$Jt&U

2. ระวังการถูกหลอกผ่านอีเมล

อันตรายจากการคลิกลิงก์หรือไฟล์ ที่แนบมากับอีเมล เช่น การแจ้งจากธนาคาร และการแจ้งยอดค่าใช้จ่ายจากแอปพลิเคชันต่างๆ ฯลฯ ซึ่งเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ ที่ปลอมอีเมลให้คล้ายกับของจริง หลอกให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อนำไปทำให้เกิดความเสียหาย รวมไปถึงการสูญเสียทรัพย์สิน แต่บางครั้งระบบก็ติดมัลแวร์ได้จากการคลิกอีเมลทันทีเช่นกัน และอาจเสี่ยงให้เกิดการติด Ransomware (ไวรัสเรียกค่าไถ่) ได้อีกด้วย

อย่าลืม !

  • อย่า! เปิดอีเมลที่มีชื่อแปลกๆ หรือมาจากคนที่ไม่รู้จัก
  • เช็คเนื้อหาที่ส่งมาว่ามีความเกี่ยวข้องกับคุณหรือไม่
  • หากเนื้อหาไม่มีความเกี่ยวข้องหรือน่าสงสัย ให้แจ้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบ

3.ระวังสิ่งที่คุณคลิก

หลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์ คลิกลิงก์ หรือดาวน์โหลดไฟล์ จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งการเข้าใช้เว็บไซต์ที่ปลอดภัย สามารถสังเกตได้จากช่อง URL ของเว็บไซต์ที่เข้า มี HTTPS และมีกุญแจที่ถูกล็อกอยู่บนฝั่งซ้ายของ URL  หรือไม่ และทุกครั้งที่ทำการ Log In เข้ารหัส ต้องมีการ Log Out ออกทุกครั้ง เพื่อลดช่องทางการถูกขโมยข้อมูลของคุณ

4.ใช้การป้องกันไวรัส (Anti-Virus) และไฟร์วอลล์ (Firewall)

ซอฟแวร์ป้องกันไวรัส (Anti-Virus) ถือเป็นวิธีที่แพร่หลายมากที่สุดในการยับยั้งมัลแวร์ และไวรัสที่เป็นอันตราย ไม่ให้เข้าไปสร้างความเสียหาย ให้กับข้อมูลภายในอุปกรณ์ของคุณ หรือไฟร์วอลล์(Firewall) ก็สามารถช่วยป้องกันการโจมตีจากอันตราย ด้วยการคัดกรองกิจกรรมที่เกิดขึ้นผ่านอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าสู่ฐานข้อมูลของคุณ

5.อัพเดตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือน

ควรอัพเดต Patch (ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำขึ้นเพื่อซ่อมแซมหรือแก้ไข) OS หรือ Software เพื่อปรับปรุงระบบให้ดีและทันสมัยมากขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ให้ แฮกเกอร์, มัลแวร์ และไวรัส เข้ามาโจมตีคอมพิวเตอร์หรือฐานข้อมูล  เพราะถ้าหากคุณละเลยจุดนี้ไป อาจก่อให้เกิดช่องทางแพร่กระจายของไวรัส Ransomware (ไวรัสเรียกค่าไถ่) บางตัว ให้เข้ามาโจมตี

อย่าลืม !

  • เปิดการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับอุปกรณ์
  • เปิดการอัปเดตการปรับปรุงอัตโนมัติในเว็บเบราว์เซอร์
  • อัปเดต Plug in (เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเว็บไซต์) เว็บเบราว์เซอร์ เช่น Adobe Flash Player, QuickTime Player, Java Plug-in และอื่น ๆ

 

TechSpace หวังว่า 5 แนวทางนี้จะช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันในการใช้อินเตอร์เน็ตทำกิจกรรมต่างๆ ให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี หากพบปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อหาเราได้ในทันที