ฝากไฟล์ออนไลน์บน Cloud Storage ให้ปลอดจากภัยไซเบอร์ยุค Covid-19
ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่า การทำงานออนไลน์ เป็นรูปแบบการทำงานที่หลายๆองค์กรหันมาใช้กัน เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ทำให้จำเป็นต้องใช้ระบบ Work From Home ซึ่งการทำงานออนไลน์นี้ รวมไปถึงการฝากงานออนไลน์ด้วยนั่นเอง จริงอยู่ที่ระบบออนไลน์เป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่ามันปลอดภัยจริงๆ? โดยเฉพาะถ้าเป็นไฟล์งานสำคัญด้วยแล้วล่ะก็ การฝากไฟล์ฟรีแบบนี้มันจะคุ้มหรือเปล่านะ
จริงๆแล้ว แต่ละองค์กร อาจจะมีวิธีการหรือช่องทางในการฝากงานออนไลน์ที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม คือการใช้ Cloud Storage หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นของ Cloud นั่นเองค่ะ แล้วไอ้เจ้านี่เนี่ย ต่อให้ป๊อปปูล่าร์แค่ไหน มันจะปลอดภัยไหมนะ? แล้วถ้าไม่ เราจะมีวิธีฝากไฟล์ฟรีบนช่องทางนี้ได้อย่างไร? วันนี้ TechSpace มีคำตอบและวิธีการดังกล่าว มาฝากทุกคนกันค่ะ
วิธีการฝากงานฟรีบน Cloud Storage ให้ปลอดภัย
1. ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม
การตั้งรหัสผ่านที่ดีและเดายาก จะถือเป็นการป้องกันบัญชีถูกเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรหัสผ่านที่ปลอดภัยนั้น ควรจะผสมระหว่างตัวอักษร ตัวเลข และอักขระพิเศษ ยิ่งถ้าเพิ่มตัวอักษรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กเข้าไปด้วยล่ะก็ จะทำให้รหัสผ่านเดายากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หรือหากว่าเราไม่แน่ใจว่ารหัสที่ตั้งไป มีความรัดกุมพอหรือไม่ ก็สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์เช็กตอนตั้งก็ได้เหมือนกันค่ะ
2. เปิดยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น
การเปิดใช้งานตัวตนแบบ 2 ชั้น (2FA) ถือเป็นการป้องกันบัญชีไม่ให้ใครแอบเข้าใช้งาน โดยผู้ใช้บริการจะส่งรหัสยืนยันผ่านทางอีเมลหรือ SMS หากถ้าผู้ใช้งานเป็นตัวปลอมละก็ จะไม่มีสิทธิ์ได้รับสิทธิ์ยืนยันการเข้าถึงนั่นเอง
3. เลี่ยงเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ
ไม่ควรอัปโหลดข้อมูลสำคัญ หรือข้อมูลลับขององค์กร เพราะหากหลุดออกไป ไม่ใช่แค่เกิดผลเสียกับเรา แต่จะส่งผลถึงบริษัทด้วย ทางที่ดีควรเก็บไฟล์ประเภทนี้ไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด ถือเป็นการป้องกันภัยจากการโจมตีในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
4.เข้ารหัสข้อมูลก่อนทำการอัปโหลด
เพื่อป้องกันการเข้าถึงไฟล์อย่างง่ายและเข้าถึงโดยที่คุณไม่รู้ตัว สามารถตั้งรหัสผ่านเปิดไฟล์ ก่อนจะทำการอัปโหลดไปยัง Cloud Storage หรือจะใช้เครื่องมือ Cryptomator และ Veracrypt เพื่อเข้ารหัสไฟล์ในเครื่องก่อนอัปโหลดเมื่อจำเป็น หากข้อมูลเกิดการรั่วไหล ไฟล์ก็จะยังถูกปกป้องไว้ด้วยการเข้ารหัส
5. เลือกบริการจัดเก็บข้อมูลที่เข้ารหัส
ผู้ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud Storage บางราย มีฟีเจอร์เข้ารหัสเป็นค่าเริ่มต้น โดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าเข้ารหัสผ่านจากในเครื่อง หรือใช้แอปพลิเคชันช่วย แต่เจ้าฟีเจอร์นี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพราะเป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น
6. จัดการไฟล์ที่ต้องการแชร์
ทุกครั้งที่ต้องการแชร์ไฟล์เป็นลิงก์ หรือให้สิทธิ์แก้ไขกับผู้อื่นผ่านอีเมล อย่าลืมปิดใช้งานภายหลัง เพราะหากลืมหรือไม่ทำ ผู้ประสงค์ร้ายอาจจะเข้ามาโจมตีไฟล์งานของเราได้หากมีลิงก์ และเข้ามาดาวน์โหลดหรือทำลายไฟล์งานของคุณได้
7. สำรองข้อมูลบน Cloud Storage
หากองค์กรเลือกใช้การสำรองข้อมูลบน Cloud Storage มักจะลบไฟล์ที่ฝากไฟล์ออกจากคอมฯเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง คุณควร Copy ข้อมูลนั้นสำรองไว้ เผื่อในกรณีที่ไม่สามารถเข้าถึงคลาวด์ได้เพราะอินเตอร์เน็ตมีปัญหา
8.ตรวจสอบแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อ
คุณเคยอาจจะให้สิทธิ์แอปฯต่างๆเชื่อมกับบัญชีคลาวด์ไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าถึงและความปลอดภัย ควรตรวจสอบแต่ละแอปฯเป็นประจำ หากไม่ได้ใช้งานแล้ว ควรทำการปิดหรือลบออกไป จะปลอดภัยที่สุด
9. จัดการอุปกรณ์ที่เข้าถึง Cloud Storage
การ Log out เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากลืม อาจจะทำให้การฝากไฟล์ออนไลน์ที่สะดวกสบายนี้ กลายเป็นความเสี่ยงไปโดยปริยาย แล้วยิ่งหากทำอุปกรณ์หายเมื่อไรละก็.. ความซวยจะมาเยือนไม่รู้ตัวเลยล่ะ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันบัญชีจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่าลืม Log out ด้วยน้า
10. อ่านนโยบายของผู้ให้บริการ
ไม่ว่าผู้ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลและฝากไฟล์ออนไลน์บน Cloud Storage จะได้รับความนิยมมากแค่ไหน เราจะต้องอ่านนโยบายการให้บริการอย่างชัดเขน โดยเฉพาะข้อมูลต่อไปนี้
- บัญชีนี้ใช้งานได้นานแค่ไหน หากไม่ได้ทำการอัปโหลดเป็นเวลานาน
- มีการจำกัดการอัปโหลดหรือไม่ เช่น ประเภทไฟล์ที่อนุญาต
- ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลอะไรบนไฟล์ได้บ้าง
- หากการสมัครสมาชิกหมดอายุ จะส่งผลต่อไฟล์อย่างไร
ขอบคุณที่มา: www.techhub.in.th
ระบบออนไลน์ อาจจะทำให้การทำงานง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝากงานออนไลน์ หรือการทำงานออนไลน์รูปแบบต่างๆ แต่ทั้งนี้แล้วนั้น อย่าลืมว่าภัยในโลกไซเบอร์เองก็มีเยอะเช่นกัน ดังนั้น หากอยากใช้ช่องทางนี้ จัดการไฟล์แล้วล่ะก็ ควรจะเช็กและระมัดระวังความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้น ช่องทางสะดวกง่ายๆนี่แหละ จะนำพาไปสู่ความหายนะก็เป็นได้นะคะทุกคน อย่างไรลองนำวิธีที่ทาง TechSpace แนะนำไปปรับใช้กันดูนะคะ นอกจากจะช่วยเพิ่มความรัดกุมในการทำงานแล้ว ยังทำให้ไฟล์และข้อมูลนั้นๆปลอดภัยขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วยค่า
หรือหากองค์กรไหน ที่กำลังมองหาผู้ให้บริการระบบ Cloud Storage Solution สำหรับใช้งานองค์กร สามารถติดต่อทีมงาน IT Outsource TechSpace มาได้เลยค่ะ นอกจากระบบคลาวด์แล้ว เรายังให้บริการไอทีแบบครบวงจรอีกด้วย Work From Home ครั้งนี้ รับรองว่า การทำงานของคุณจะง่ายและสะดวกขึ้นแน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่สงสัยหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถทัก Inbox เข้ามาหาเราได้เพียง
Line : @TechSpace
Tel. 02-381-9075