Line
Messenger

เครื่องปริ้น เลือกอย่างไรให้ตรงจุดตามการใช้งาน

/

เครื่องปริ้น เลือกอย่างไรให้ตรงจุดตามการใช้งาน

เครื่องปริ้น

 

จะสังเกตเห็นว่าในท้องตลาดตอนนี้ ต่างมีเครื่องปริ้นหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ผุดขึ้นมาให้เห็นมากมายจนเลือกไม่ถูก กลายเป็นปัญหาของคนที่กำลังมองหาเครื่องปริ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วควรจะซื้อเครื่องปริ้นแบบไหนดี จนบางครั้งหลายคนตัดปัญหาตรงจุดนี้ โดยการเลือกซื้อเครื่องปริ้นที่มีราคาแพงไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าของแพงมีคุณภาพมากที่สุด 

แต่อย่าลืมคิดไปว่า เครื่องปริ้นที่มีราคาสูงบางครั้งก็มีฟังก์ชันที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันตัวนั้นในเครื่องเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นเราต้องมาทำความเข้าใจกับความต้องการของตัวเองให้ดีก่อนเลือกซื้อเครื่องปริ้นในแต่ละครั้ง

ก่อนอื่นอยากให้มาทำความเข้าใจกับประเภทของเครื่องปริ้น โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรก เครื่องปริ้นแบบอิงค์เจ็ท มีข้อดีคือ ราคาค่อนข้างถูก งานพิมพ์ออกมามีคุณภาพสูง และมีสีที่คมชัด แต่ข้อเสียของมันก็คือ ถ้าเราห่างหายจากการใช้งานไปนาน หรือไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้

ส่วนประเภทที่สองคือ เครื่องปริ้นแบบเลเซอร์ มีข้อดีคืองานพิมพ์ที่ออกมามีคุณภาพดีมาก และไม่ต้องกังวลเรื่องหัวพิมพ์อุดตันเหมือนแบบอิงค์เจ็ท เนื่องจากกระบวนการพิมพ์เป็นแบบเลเซอร์ และก็มีข้อเสียเช่นกันคือ มีราคาสูงมาก

วันนี้ TechSpace จะมาแนะนำหลักการเลือกเครื่องปริ้นให้เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยลองนำ 7 ข้อนี้ ไปใช้พิจารณาเลือกซื้อเครื่องปริ้นว่าตัวเราหรือองค์กรของเราเหมาะที่จะใช้เครื่องปริ้นแบบไหน รุ่นไหน และราคาประมาณเท่าไหร่

ข้อที่ 1 ต้องรู้ว่าใครเป็นคนใช้งาน

สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ “ผู้ใช้งาน” เพราะจะทำให้ทราบได้ว่าเครื่องปริ้นที่จะซื้อนั้นจะเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา อาจจะใช้แค่งานปรินท์และงานถ่ายเอกสาร แต่ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ คงต้องใช้ทั้งถ่ายเอกสาร ปรินท์งาน และสแกนงานไปด้วย ซึ่งถ้ารู้ในข้อแรกนี้ก็จะทำให้เราสามารถเลือกซื้อเครื่องปริ้นได้ง่ายขึ้น

ข้อที่ 2 ทราบวัตถุประสงค์และปริมาณการใช้งานที่แน่ชัด

เมื่อทราบว่าใครเป็นคนใช้งานแล้ว ต่อมาก็ต้องรู้ด้วยว่าเราจะนำไปใช้ทำอะไรบ้าง ปริมาณมากน้อยแค่ไหน และต้องการความรวดเร็วในการพิมพ์ต่อแผ่นเท่าไหร่ ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ อาจจะต้องการการใช้งานที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นปรินท์ ถ่ายเอกสาร สแกนงาน และใช้งานในปริมาณมาก ๆ เพราะจะต้องใช้ในการทำงานทุกวัน

ข้อที่ 3 เนื้องานที่ต้องการปรินท์เป็นอย่างไร

เนื้องานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาเช่นกัน ผู้ใช้งานจะต้องทราบว่าเนื้องานของตนเอง หรือเอกสารต่าง ๆ นั้น จะต้องเป็นงานพิมพ์ขาวดำ หรืองานพิมพ์สีเป็นส่วนใหญ่ เพื่อที่จะได้เจาะจงการซื้อเครื่องปริ้นได้ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินในเรื่องของค่าสีน้ำหมึกอีกด้วย

ข้อที่ 4 ฟังก์ชันเสริมที่ช่วยตอบโจทย์ความสะดวกสบาย

เครื่องปริ้นสมัยใหม่จะมีฟังก์ชันเสริมเข้ามามากมาย เช่น การสั่งปรินท์ผ่าน Wifi หน้าจอแสดงผลแบบ LED หรือแผงควบคุมแบบ Touch Screen ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้เราก็ต้องนำมาพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานของเราด้วยว่ามีความจำเป็นไหม ถ้าไม่จำเป็นเราก็ตัดออกไปได้ ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณในส่วนนี้ลงได้

ข้อที่ 5 ดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องปริ้น

เชื่อว่ารูปลักษณ์ก็ส่งผลต่อการเลือกซื้อเช่นกัน บางคนอาจจะมองที่สีสันของตัวเครื่อง เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมภายในห้อง บางคนอาจจะมองเรื่องขนาดของตัวเครื่องที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย หรือบางคนมองเรื่องลูกเล่นในการพับเก็บอุปกรณ์เพื่อประหยัดพื้นที่ ซึ่งก็แล้วแต่ความต้องการส่วนตัวของผู้ใช้

ข้อที่ 6 ประสิทธิภาพและคุณภาพงานพิมพ์

เป็นอีกข้อที่จำเป็นอย่างมาก ในการนำมาพิจารณาก่อนเลือกซื้อ เราต้องดูรายละเอียดของงานที่จะใช้พิมพ์ก่อนว่าจะเน้นเรื่องของคุณภาพงานพิมพ์มากขนาดไหน ถ้าเป็นงานที่เน้นพิมพ์เอกสารเพื่อนำเสนอก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปริ้นที่มีประสิทธิภาพดีมากเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นงานพิมพ์ที่เน้นความสวยงามของสีสัน อาจจะต้องเลือกใช้เครื่องปริ้นที่มีประสิทธิภาพมาก สามารถปรินท์งานออกมามีคุณภาพสีสันสวยสดงดงาม

ข้อที่ 7 งบประมาณ

เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายคนเช่นกัน เราจึงต้องเลือกซื้อเครื่องปริ้นตามความเหมาะสมของการใช้งานเราเป็นหลัก เพราะถ้าฟังก์ชันการใช้งานเยอะเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งสูงมากขึ้น และอย่าลืมว่า เมื่อซื้อเครื่องปริ้นไปแล้ว มันจะพ่วงในเรื่องของค่าใช้จ่ายจิปาถะต่าง ๆ เช่น ค่าหมึกพิมพ์ รวมถึงค่าบำรุงรักษาอีกด้วย

ใครกำลังจะซื้อเครื่องปริ้น แล้วเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหน แบบไหน ลองนำ 7 หัวข้อข้างต้นไปใช้พิจารณาก่อน จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องปริ้นที่เหมาะกับการทำงานของคุณได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าพิจารณาดูแล้วยังไม่มั่นใจว่ารุ่นที่เราเล็งไว้จะเหมาะกับเรา และสามารถใช้งานได้นานเท่าไหร่ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีก่อนตัดสินใจก่อนก็ได้

TechSpace Co., Ltd. บริษัท IT Outsource ประเทศไทย ผู้ให้บริการ IT Solution & Services อย่างครบวงจร และมีบริการจำหน่ายและจัดซื้อจัดหา Hardware และ Software ที่มีคุณภาพ รองรับการใช้งานอย่างตรงจุด ในราคาสุดประหยัด พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย