Messenger

ใช้ VPN ฟรี อันตรายหรือไม่ ใคร Work From Home ต้องรู้

/

ใช้ VPN ฟรี อันตรายหรือไม่ ใคร Work From Home ต้องรู้

Work From Home ช่วงนี้  หากใช้ VPN ฟรี มีอันตรายหรือไม่ ?

ในช่วง Work From Home แบบนี้ แน่นอนว่า จะต้องทำงานผ่านระบบออนไลน์ 100% นั่นหมายความว่า ผู้ใช้งาน จะต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยจากอันตรายจากโลกไซเบอร์ และด้วยยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลองค์กรด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การป้องกันภัยนั้นควรเพิ่มเป็นเท่าตัวเลยค่ะ ทั้งภัยจากการถูกโจรกรรมข้อมูล การปล่อยไวรัส รวมถึงการจู่โจมจากช่องทางออนไลน์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่ต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า เหล่าแฮกเกอร์จะคุกคามและใช้วิธีใดในการโจมตีข้อมูลนั่นเองค่ะ

หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้การทำงานที่บ้านปลอดภัยมากขึ้น คือการใช้ VPN นั่นเองค่ะ

VPN (Virtual Private Network) คือการสร้างเน็ตเวิร์กจำลองขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ต้องการทำงานเชื่อมต่อเข้าไปจากที่ใดก็ได้ในโลกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งระบบนี้จะช่วยสร้างความปลอดภัยกว่าการเชื่อมต่อทั่วไป เพราะผู้เชื่อมต่อจะต้องใช้เงื่อนไขไม่ว่าจะเป็น User / Password หรือแม้แต่โปรแกรมบางอย่างในการเข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์กของบริษัท

แต่การติดตั้ง VPN ต้องมีค่าใช้จ่าย .. และเพราะสาเหตุนี้ เลยทำให้หลายๆคน เลือกที่จะใช้ VPN ฟรี โดยที่อาจจะลืมนึกไปว่า ในโลกออนไลน์ ของฟรี มักมีของแถมเป็นอะไรที่เราไม่เคยอยากได้เสมอเลยค่ะ ซึ่งของแถมที่ว่านั้น แฝงไปด้วยภัยอันตรายมากมาย ซึ่งจะขอสรุปเป็นข้อให้ดังนี้ค่ะ

  1. ประวัติการเข้าเว็บไซต์ถูกเปิดเผย

VPN ฟรี มักจะเคลมว่า ไม่มีการเก็บ Log แต่แแท้จริงล้ว จะมีการแอบเก็บข้อมูล และนำไปขายให้ผู้อื่น เช่น บริษัท E-commerce เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงการตลาด เป็นต้น หรือ ส่งข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้, สถานที่ และ/หรือ กิจกรรมออนไลน์ให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

  1. ไร้ซึ่งความปลอดภัย

VPN เป็นการรวมตัวกันของแอปพลิเคชันการเฝ้าติดตาม, โปรแกรม AntiVirus, Anti-malware รวมไปถึง Firewall เพื่อป้องกันการโจมตีและข้อมูลรั่วไหล แต่หากเป็น VPN ฟรี จะไม่ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย ทำให้ป้องกันได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดความเสียหายของข้อมูลและอุปกรณ์ได้

  1. โฆษณาแแอบแฝง

การใช้ VPN ฟรี จะต้องแลกมาด้วยการเห็นโฆษณา เนื่องจากบริษัทที่ให้บริการ VPN ฟรีนี้ ต้องการหารายได้จากโฆษณานั่นเอง และเหล่าโฆษณาพวกนี้นี่แหละ มักจะกวนใจผู้ใข้งานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งหากเผลอไปกด อาจจะพาเราไปยังเว็บไซต์ที่อันตรายด้วยนะ 

  1. มีข้อจำกัดในการใช้งาน

VPN ฟรี มักจะให้บริการในแบบจำกัด โดยหากต้องการใช้ฟังก์ชันที่มากกว่านี้ อาจจะต้องอัปเกรดเป็นแบบ Premium และหากต้องการความเป็นส่วนตัว ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน

หาก VPN ฟรี มีอันตรายและข้อจำกัดที่มากมายแบบนี้ เราควรเลือกใช้บริการ VPN แบบไหนดี ?

– พิจารณาว่า Feature ครบและตรงกับความต้องการของเราหรือไม่

– สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ทุกประเภทหรือไม่

– รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายพร้อมกันได้

– มีนโยบายไม่เก็บพฤติกรรมการใช้งาน

– มีจำนวน Server มากมาย และมีที่ตั้งหลายแห่ง

– ไม่จำกัด Bandwidth และความเร็ว

– มีระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ทันสมัย

– ควรมี Support 24 ชม.

ขอบคุณที่มา: catcyfence.com

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นเลยค่ะ ว่าในโลกออนไลน์ ของฟรีนี่ตัวอันตรายเลยนะ สำหรับ VPN ฟรีแล้ว ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือนโยบายความเป็นส่วนตัว หากใครที่ต้องการใช้ อาจจะต้องทำใจยอมรับข้อนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยของทั้งข้อมูลและอุปกรณ์ที่ใข้งาน แนะนำว่า ควรใช้ VPN ที่มีคุณภาพดีกว่าค่ะ อาจจะมีค่าใช้จ่ายก็จริง แต่สิ่งที่ได้มา คุ้มค่าและปลอดภัยมากกว่าเป็นเท่าตัวเลยนะ

และหากองค์กรไหนกำลังมองหาผู้ให้บริการติดตั้งและจัดการเครือข่าย VPN อย่าลืมนึกถึง TechSpace นะคะ นอกจากบริการ VPN ที่ปลอดภัยแล้ว เรายังให้บริการ IT Support แบบครบวงจรอีกด้วย ติดต่อ 1 ครั้ง แต่ได้บริการไอทีแบบ One Stop Service เลยน้า

สำหรับใครที่สงสัยหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถทัก Inbox เข้ามาหาเราได้เพียงคลิก

m.me/TechSpaceIT

Line : @TechSpace

☎ Tel. 02-381-9075

🌎 www.techspace.co.th