Line
Messenger

IoT เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ง่ายยิ่งกว่า

/

IoT เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ง่ายยิ่งกว่า

IoT คืออะไร

IoT เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ง่ายยิ่งกว่า

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสะดวกสบายถูกยกให้เป็นความต้องการอันดับต้นๆ สำหรับการดำเนินชีวิตในยุคนี้ ดังนั้น นวัตกรรมสุดล้ำอย่าง Internet of Things (IoT) จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากกำลังให้ความสนใจ ซึ่ง TechSpace จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ IoT เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีในโลกสมัยใหม่ผ่านบทความนี้

 

1. IoT คืออะไร

IoT หรือ “Internet of Things” คือ เทคโนโลยีที่นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่สามารถรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้มาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ทำงาน ถ่ายโอนข้อมูลกันกันอย่างเป็นระบบผ่านเครือข่าย และช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน  โดยอุปกรณ์เหล่านี้สามารถอยู่ในรูปแบบใดก็ได้ เช่น แปรงสีฟันอัจฉริยะ เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ รถยนต์อัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย

 

2. ตัวอย่าง IoT ในชีวิตประจำวัน

2.1 บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)

เป็นบ้านที่ยกระดับความสะดวกสบายแก่ผู้พักอาศัยด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ภายในบ้าน เพื่อให้สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนได้ ยิ่งไปกว่านั้น บ้านอัจฉริยะยังมีระบบการจัดการพลังงาน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติทั้งภายในและรอบตัวบ้าน ซึ่งส่วนมากจะถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น การเปิด-ปิดอุปกรณ์ต่างๆ หรือการปรับความสว่างในห้อง เป็นต้น

 

2.2 อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables)

สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องประดับบนร่างกาย และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดย่อมที่อำนวยความสะดวกทุกที่ทุกเวลา โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆ อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ สายรัดข้อมือ และแว่นตาอัจฉริยะ เพื่อการสื่อสารและประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ

 

3. ประโยชน์ของ IoT ในชีวิตประจำวัน

สะดวกสบาย: IoT เป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตให้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยความสะดวกสบายในการควบคุม ดูแล และตั้งค่าอุปกรณ์ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้งานผ่านสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

 

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ทคโนโลยี IoT สามารถช่วยตรวจสอบปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่สามารถช่วยลดมลภาวะและประหยัดพลังงานได้ เช่น การใช้เซนเซอร์ตรวจจับการใช้พลังงานของอุปกรณ์ การวัดระดับความหนาแน่นของฝุ่น pm2.5 เป็นต้น

 

ประหยัดพลังงาน: IoT สามารถเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอนุรักษ์พลังงานได้  เช่น การใช้เซนเซอร์ตรวจจับการใช้พลังงานของอุปกรณ์ รวมถึงการปรับรูปแบบการทำงานของอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ปลอดภัยไร้กังวล: IoT สามารถเป็นเกราะเสริมความปลอดภัยให้แก่บ้านและสถานที่ทำงานได้ ด้วยการแจ้งเตือนหรือควบคุมระบบความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ เช่น การตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อพบการบุกรุกในระบบ

 

 4. ความปลอดภัยบนเครือข่าย IoT

ผู้ใช้งาน IoT ควรตระหนักถึงความปลอดภัยของภาพรวมโครงข่ายทั้งหมดเป็นอันดับแรก เนื่องจากความปลอดภัยของเครือข่าย IoT มีความซับซ้อนมากกว่าเครือข่ายทั่วไป ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้โปรโตคอลและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่หลากหลายนั่นเอง 

 

นอกจากนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง การเชื่อมต่อและใช้งานอย่างรอบคอบ การอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ  รวมถึงการใช้ระบบความปลอดภัยที่เหมาะสมยังสามารถลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ IoT ได้เช่นกัน

 

การนำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้วิถีการดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ เปลี่ยนไป แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ขั้นกว่าของความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนับว่าเป็นนวัตกรรมในโลกยุคใหม่ที่ควรค่าแก่การใช้งานอย่างยิ่ง

 

 

ติดต่อขอคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน IT แบบครบวงจรจาก TechSpace

 

คลิก >m.me/TechSpaceIT

Line : คลิก > https://page.line.me/techspace  หรือ Add Line: @TechSpace

Tel. 02-381-9075

www.techspace.co.th